Logo
Print this page

10 Community Mall ยอดนิยมในเมืองกรุง

ช้อป ชิม ชิล 10 คอมมูนิตี้มอลล์ยอดนิยมในเมืองกรุง


1. Victoria Garden                                                                                                                                                                                                          
          คอมมูนิตี้มอลล์นำเทรนด์แห่งแรกและแห่งเดียวบนถนนเพชรเกษม ที่จะเข้ามาเพิ่มสีสันในการช้อปปิ้งให้กับคุณด้วยบรรยากาศและกลิ่นอายสถาปัตยกรรมจากสวนสวยสไตล์วิคตอเรียนร่วมสมัย และพร้อมให้คุณเพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายสินค้าท่ามกลางบรรยากาศที่โปร่งโล่ง ร่มรื่น ที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้านค้า สะดวกสบายกับที่จอดรถกว่า 400 คัน ตลอดจนอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารแสนอร่อย ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วความสุขของคุณจะแบ่งบานที่นี่    

Victoria Garden
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก victoria-gardens.net
                                                                                                                                      
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมระหว่างซอยเพชรเกษม 67-69 เชื่อมระหว่างถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีถนนพุทธมณฑลสาย 2, 3 และ 4 ถนนทวีวัฒนาและถนนเอกชัย-พระราม 2
          โทรศัพท์ : 0 2444 4555, 08 7288 0800
          เว็บไซต์ : victoria-gardens.net  และ  เฟซบุ๊ก Victoria Garden
 

 2. The Promenade (เดอะ พรอมานาด)
 
          ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในย่านรามอินทรา เชื่อมต่อจากศูนย์การค้า แฟชั่น ไอส์แลนด์ ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Romantic Casual Style และมีสถาปัตยกรรมดีไซน์แบบ Old Town Main Street ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และพร้อมให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจไปกับสวนสวยและน้ำพุที่อยู่ใจกลางมอลล์ พร้อมทั้งจุใจไปกับร้านค้าที่คัดพิเศษกว่า 100 ร้านค้า อิ่มท้องไปกับอาหารอันเลิศรสกว่า 50 ร้าน พร้อมด้วยซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมี่ยมที่เป็นสวรรค์ของคุณแม่บ้าน พร้อมเปิดประสบการณ์พิเศษไปพร้อมกันที่นี่     

The Promenade
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Promenade
                                                           
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : 587,589, 589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
          โทรศัพท์ : 0 2947 5000
          เว็บไซต์ : thepromenade.co.th และ เฟซบุ๊ก The Promenade
 

 3. Amorini Boutique Lifestyle Mall
 
          ไลฟ์สไตล์มอลล์สุดเก๋อีกแห่งริมถนนรามอินทรา ได้แรงบันดาลใจมาจากเกาะ Santorini ประเทศกรีซ โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อย่างกังหันลมและหอระฆังขนาดใหญ่ พร้อมทั้งตกแต่งอาคารร้านด้วยสีขาวสลับฟ้ามองแล้วสบายตา แฝงไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ภายในครบครันไปด้วยร้านค้ากว่า 30 ร้านค้า ที่รองรับวิถีชีวิตและการจับจ่ายของผู้คนย่านรามอินทรา พร้อมด้วยทำเลที่ให้คุณเดินทางอย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติด

Amorini Boutique Lifestyle Mall
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Amorini Boutique Lifestyle Mall
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : ตั้งอยู่บนบนถนนรามอินทรา กม.12 ปากทางเข้าถนนสวนสยาม สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง อาทิ ถนนรามอินทรา ถนนเสรีไทย และถนนรัชดา-รามอินทราตัดใหม่
          โทรศัพท์ : 0 2518 1669-70
          เว็บไซต์ : amorinimall.com และ เฟซบุ๊ก Amorini Boutique Lifestyle Mall
 

 4. Asiatique the Riverfront
 
          ไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ถูกปลุกชีพขึ้นจากเดิมที่เคยเป็นตั้งของท่าเรือ อีสท์ เอเชียติก ภายในโดดเด่นด้วยลูกเล่นและการตกแต่งบรรยากาศในช่วงปี 2450-2490 สไตล์โคโลเนียลที่นิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมทั้งให้คุณดื่มด่ำไปกับความบันเทิงริมน้ำกับทั้ง 4 ย่าน อาทิ “ย่านเจริญกรุง” แหล่งรวมร้านขายของที่ระลึก และสินค้าของตกแต่งบ้านกว่า 1,000 ร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำแสนอร่อยมากมาย ตลอดจนตระการตาไปกับการแสดงโชว์ต่าง ๆ อาทิ หุ่นละครเล็กโจหลุยส์, คาลิปโซ่ แบงค็อก ฯลฯ เป็นต้น “ย่านกลางเมือง” ที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมทั้งตะวันออกและตะวันตกสู่ร้านอาหารนานาชนิด ลานเบียร์ และลานกิจกรรมกลางแจ้ง
 
          “ย่านโรงงาน” (Factory District) สะท้อนวิถีชีวิตของคนทำงานในอดีต สู่การพบปะสังสรรค์แบบมีสไตล์ กับร้านค้าแฟชั่นสุดฮิปกว่า 500 ร้านค้า ในอาคารโรงเลื่อยเก่าอายุกว่า 100 ปี ที่ได้รับการออกแบบใหม่ในบรรยากาศของคนทันสมัย และ “ย่านริมน้ำ” (Waterfront District) สัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มาพร้อมกับร้านอาหารนานาชาติและไวน์บาร์ในบรรยากาศแบบ Panoramic View พร้อมทางเดินริมน้ำที่ยาวที่สุดในเมืองไทยกว่า 300 เมตร และที่พลาดไม่ได้คือ นั่ง “ชิงช้ายักษ์” หรือเอเชียทีค สกาย (ASIATIQUE SKY) ด้วยความสูงกว่า 60 เมตร ชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เสมือนจำลอง London Eye ของประเทศอังกฤษมาตั้งอยู่ที่เมืองไทยเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นแลนด์มาร์คสุดฮิปในย่านเจริญกรุง ที่เป็นแหล่งรวมความบันเทิงริมน้ำและเป็นศูนย์รวมกองทัพนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติที่พร้อมให้คุณมาสัมผัสได้แล้วทุกวัน

Asiatique the Riverfront
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  thaiasiatique.com
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00-24.00 น.
          ที่อยู่ : 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120
          โทรศัพท์ : 0 2108 4488
          เว็บไซต์ :  thaiasiatique.com และ เฟซบุ๊ก Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์)
 

 5. พิคคาเดลลี่ แบงค์ค็อก
 
          คอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางสุขุมวิท 77 ที่มีกลิ่นอายของ English Old Town สุดคลาสสิก ซึ่งจำลองแหล่งช้อปปิ้งหลายแห่งในประเทศอังกฤษมาตั้งอยู่ที่ประเทศไทย โดยรอบมีลักษณะเป็นหมู่ตึกเฮอริเทจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์แห่งเมือง Chester หอนาฬิกาโบราณที่ดูมีเอกลักษณ์โดดเด่นสะดุดตา เรือนแถว Terrace House ในสมัย Georgian สีสันลูกกวาดสะดุดตา ให้อารมณ์ราวอยู่ย่าน Notting Hill เสมือนได้ไปเหยียบย้ำอยู่ในประเทศอังกฤษกันเลยทีเดียว
 
          นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมี Super Market และ Fresh Market ในบรรยากาศของตลาด Portobello Market ตลอดจนร้านค้าและร้านอาหารมากกว่า 50 ร้านค้า พร้อมชมวิวสวนสวยเปิดโล่งใจกลางมอลล์ หรือจะหลบแอร์ออกมาชิล Weekend Market ตลาดนัดกลางแจ้งบรรยากาศวินเทจที่ให้อารมณ์เสมือนเดินช้อปปิ้งอยู่ในย่าน Portable Road ก็ไม่ว่ากัน เหนือไปกว่านั้นคุณจะได้ตื่นตาไปกับที่จอดรถสุดไฮเทคแบบ Mechanical Parking ที่จะทำให้คุณสะดวกและประหยัดเวลาในการจอดรถอีกด้วย ดังนั้น หากใครกำลังหามุมเด็ดไว้ถ่ายรูปหรือหาสถานที่พักผ่อนที่นี่พร้อมมอบความสุขนั้นให้กับคุณ

Pickadaily Bangkok
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  pickadailybkk.com
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนสุขุมวิท 77 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          โทรศัพท์ : call center 1797 กด 6
          เว็บไซต์ : pickadailybkk.com และ เฟซบุ๊ก Pickadaily Bangkok
 

 6. The Scene Town in Town (เดอะซีน ทาวน์ อิน ทาวน์)
 
          คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนศรีวรา ย่านวังทองหลาง ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ภายในคุณจะได้พบกับแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไอที ซูเปอร์มาร์เก็ต แฟชั่น คลินิกเสริมความงาม ศูนย์บริการเพื่อสุขภาพ ที่อัดแน่นกว่า 40 ร้านค้า บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ และที่จอดรถกว่า 160 คัน ซึ่งนับว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ครบครันและสะดวกสบายในที่เดียว

The Scene Town in Town
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Scene Town In Town  
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) เดอะซีนทาวน์อินทาวน์ ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพ ฯ วังทองหลาง, กรุงเทพมหานคร 10310
          โทรศัพท์ : 08 1849 7600, 08 1834 6010
          เว็บไซต์ : thescene.in.th และ  เฟซบุ๊ก The Scene Town In Town
 

 7. The Paseo Town (เดอะพาซิโอทาวน์)
 
          คอมมูนิตี้มอลล์ที่เป็นสีสันแห่งใหม่ในย่านรามคำแหง ที่รวบรวมอาหาร แฟชั่น และร้านค้ามากมาย ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคน โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ Pet Friendly ที่ให้คุณสามารถพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาพักผ่อนและเดินเล่นร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายภายใต้พื้นที่สีเขียวและสวนสวย อีกทั้งคงรูปแบบการผสมผสานระหว่างโชว์รูมรถยนต์กับศูนย์การค้า เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อรถยนต์หรือนำมาเข้าศูนย์จะได้ใช้เวลาว่างในระหว่างรอ นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยพื้นที่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่ในร่ม จึงทำให้ในหน้าฝนทุกท่านสามารถมาเดินเล่นได้อย่างสบาย ๆ ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวเปียก พร้อมทั้งมีที่จอดรถมากกว่า 1,100 คัน ไว้รองรับอีกด้วย

The Paseo Town
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thepaseotown.com
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน
          ที่อยู่ : 7/2-7 ถนนรามคำแหง 127/2 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
          โทรศัพท์ : 0 2329 8999
          เว็บไซต์ : thepaseotown.com และ  เฟซบุ๊ก The Paseo by TBN
 

 8. The Walk (เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์)

 
          เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดย่อมแนวคิดใหม่ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวบนถนนราชพฤกษ์ ถูกสรรสร้างภายใต้รูปแบบ Village Walking Street ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Santa Monica Village ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ ติดแอร์ทั้งอาคาร และมีการออกแบบภายในให้มีความโปร่งโล่ง ไม่ทึบ มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ นอกจากนี้ ภายในยังมีแบบจำลองสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไว้มากมายให้ได้ถ่ายรูปเล่น และพร้อมให้คุณได้สนุกสนานไปกับการช้อปปิ้งกว่า 120 ร้านค้า พร้อมด้วยที่จอดรถกว่า 600 คัน และถึงแม้จะตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีแต่การเดินทางก็สะดวกสบาย รับรองว่าคุณจะหลงรักและมีความสุขไปกับความครบครันของคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้อย่างแน่นอน

The Walk
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก The Walk Shopping Center
                                                                                    
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนราชพฤกษ์ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
          โทรศัพท์ : 02 489 6922
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Walk Shopping Center
 

 9. K Village
 
          ไลฟ์สไตล์มอลล์บนเนื้อที่ 15 ไร่ใจกลางสุขุมวิท แหล่งช้อปปิ้งในบรรยากาศสบาย ๆ เอาไว้หลบหนีความวุ่นวายจากในเมือง ภายในมีร้านค้ามากมายที่แบ่งเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร, สุขภาพและความงาม, ไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยี, ซูเปอร์มาร์เก็ต, แฟชั่นและเครื่องประดับ รวมไปถึงเอาใจคนรักสัตว์ที่สามารถนำน้องหมามาเดินเล่นได้อีกด้วย ซึ่งในแต่ละโซนจะมีบรรยากาศและการตกแต่งที่สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะแก่การเดินเล่นช่วงหลังเลิกงาน การเดินทางก็สะดวกสบาย พร้อมด้วยที่จอดรถกว้างขวางที่จอดได้กว่า 300 คัน ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาแหล่งช้อปปิ้งหรือแหล่งดินเนอร์สวย ๆ บรรยากาศดีก็ไม่ควรพลาดที่นี่

K Village
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก kvillagebangkok.com
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : 93, 95 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย  กรุงเทพ ฯ 10110 (หากมาทางถนนพระราม 4 จะอยู่ด้านหลังบิ๊กซี พระราม 4 ฝั่งเดียวกับตึกมาลีนนท์ ช่อง 3)
          โทรศัพท์ : 0 2258 9919, 0 2258 9920
          เว็บไซต์ : kvillagebangkok.com และ เฟซบุ๊ก K-Village
 

 10. Rain Hill
 
          แหล่งช้อปปิ้งเทรนด์ใหม่สุดชิคใจกลางสุขุมวิท ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อและสถานีพร้อมพงษ์ โดดเด่นด้วยตัวอาคารที่ถูกออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผสมผสานกลมกลืนให้เข้ากับธรรมชาติจากพันธุ์ไม้เขตร้อนหลากหลายชนิดที่เป็นสถาปัตยกรรมสวนแนวดิ่งหรือ Vertical Garden และกำแพงม่านน้ำตกความสูงกว่า 30 เมตร ภายในแบ่งออกเป็น 5 ชั้น จัดสรรแบ่งส่วนได้อย่างลงตัว โดยชั้น 1 จะเป็นโซนร้านกาแฟ เบเกอรี่ ร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ทั่วไปที่เอาใจคนรักการรับประทานอาหาร รักเค้ก และเครื่องดื่มรสชาติหวาน ชั้นที่ 2 โซนร้านเสื้อผ้า แฟชั่น เครื่องประดับ และร้านอาหารที่เอาใจสาว ๆ ด้วยโซนของร้านเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์ที่มีดีไซน์ในแบบของตัวเอง ชั้น 3 โซนร้านอาหาร สุขภาพและความงาม ซึ่งมีร้านอาหารมากมายให้เลือกลิ้มรส อีกทั้งมีคลินิกเสริมความงามและดูแลเรื่องสุขภาพ ชั้น 4 โซนเพื่อการศึกษา และชั้น 5 เป็นส่วนของอพาร์ทเม้นท์ ให้เช่า เพื่อรับรองความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัยสไตล์คนเมืองเช่นคุณ                                                         

Rain Hill
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Rain Hill      
 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2260 7447, 08 1909 7171
          เว็บไซต์ : rainhill47.com และ เฟซบุ๊ก Rain Hill                                               


          เลือกกันไม่ถูกเลยใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าถูกใจที่ไหนไปที่นั่นเลย แต่ละที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ยังไงก็ขอให้วันหยุดหรือช่วงเวลาเลิกงานของคุณมีความสุขไปกับสถานที่ที่เราคัดสรรมาให้แล้วกันนะจ๊ะ แล้วเจอกันใหม่จ้า...
 
 
 
                         
ที่มา: http://travel.kapook.com/view95689.html

Last modified onวันเสาร์, 25 เมษายน 2558 07:34
© SAWASDEEE.COM . All rights reserved.